เรียนภาษาในโรงหนัง

ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าใครมีความรู้ภาษาที่สองถือว่าได้เปรียบคนอื่นหลายช่วงตัวนัก ทั้งเรื่องหน้าที่การงาน การค้าการขาย หรือการเรียน และเหตุผลนี้ทำให้เราได้เห็นผู้คนจำนวนไม่น้อยพยายามขวนขวายพัฒนาภาษาที่สองที่ตนพอจะมีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพและสามารถนำมาใช้งานได้ เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

สำหรับประเทศไทยคนส่วนใหญ่ยังมีจุดอ่อนเกี่ยวกับการใช้ภาษาที่สอง โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ทั้งๆที่ระบบการศึกษาบ้านเราจัดวิชาภาษาอังกฤษไว้ในหลักสูตรตั้งแต่ประถมศึกษาจนถึงมหาวิทยาลัยว่าทุกคนต้องเรียน แต่นั่นก็ยังไม่ทำให้เด็กไทยที่มีดีกรีปริญญาตรีติดตัว (โดยส่วนใหญ่) พูดหรือสื่อสารภาษาอังกฤษได้ แม้แต่บางคนมีดีกรีเป็นถึงมหาบัณฑิตยังสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้ก็มีถมไป

ข้อสรุปก็คือ การเรียนภาษาอังกฤษจะเรียนแต่ทฤษฎีในห้องเรียนเพียงอย่างเดียวไม่ได้ จำเป็นต้องฝึกภาคปฏิบัติควบคู่กันไป โดยเฉพาะในเรื่องของการสื่อสารคือการพูดและฟัง เป็นคำพูดของ 'อนวัช องค์วาสิฏฐ์' รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจโรงภาพยนตร์ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่กล่าวไว้เมื่อตอนเปิดตัวโครงการ 'English On Screen (EOS)' แคมป์สอนภาษาอังกฤษในโรงภาพยนตร์ ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 2 สำหรับปีนี้ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกับสถาบัน EF Education First และกลุ่มบริษัทดัชมิลล์ จับมือกันในฐานะพันธมิตรเปิดโครงการ 'English On Screen (EOS)' เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านจอภาพยนตร์ โดยเปิดรับสมัครนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายทั่วประเทศจำนวน 2,000 คน และครูสอนภาษาจำนวน 500 คน เข้าอบรมภาษาอังกฤษฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย นอกจากนี้นักเรียนที่ผ่านการอบรมทุกคนยังได้รับสิทธิ์ร่วมสอบชิงทุนการศึกษาเข้าเรียนคอร์สภาษาที่ประเทศอังกฤษ จำนวน 10 ทุน

อนวัชเปิดเผยว่า 'English On Screen' หรือแคมป์สอนภาษาอังกฤษในโรงภาพยนตร์ เกิดจากความคิดที่จะใช้ภาพยนตร์เป็นสื่อกลางในการสอดแทรกการให้การศึกษาภาษาอังกฤษเพื่อให้เด็กไทยมีพัฒนาการด้านภาษาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถือเป็นการเปิดตำราบทใหม่ให้กับเยาวชนไทยได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษในรูปแบบที่แตกต่าง ภายใต้แนวคิด Edutainment Learning และการเรียนภาษาอังกฤษผ่านโรงภาพยนตร์ยังถือว่าทำเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในเมื่อเรามีทรัพยากรอยู่แล้วคือโรงภาพยนตร์ จึงอยากจะอบรมให้น้องๆที่ชมภาพยนตร์ได้เรียนรู้บทสนทนาภาษาอังกฤษควบคู่กันไปด้วย ทำให้การชมภาพยนตร์สนุกสนานพร้อมทั้งได้รับสาระความรู้ที่เป็นประโยชน์มากกว่าที่คิด และยังสามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

อนวัชกล่าวเพิ่มเติมว่า จริงๆแล้วคนไทยเป็นคนที่เรียนภาษาอังกฤษมาก แต่ยังมีปัญหาในเรื่องของการนำมาใช้ เพราะการศึกษาบ้านเรายังเน้นในเรื่องของทฤษฎี บริษัทเมเจอร์ฯจึงอยากให้เด็กไทยมีโอกาสฝึกภาษาโดยมีภาพยนร์เป็นสื่อกลาง เพราะมองว่าการเรียนภาษาอังกฤษนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องนั่งเรียนในห้องเรียนอย่างเดียว แม้แต่ในโรงภาพยนตร์ก็มีโอกาสเรียนรู้ได้ และยังทำให้การเรียนมีความสนุก

ถิรตา ถิราติ หรือบุย นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน เป็น 1 ใน 11 คนที่เคยได้รับทุนเดินทางไปเรียนรู้และศึกษาวัฒนธรรมที่ประเทศออสเตรเลียในรุ่นที่ผ่านมา เล่าให้ฟังว่า โครงการนี้ทำให้ได้ประสบการณ์ใหม่ๆมากมาย ทั้งความรู้ทางภาษาและประสบการณ์ในต่างแดน สิ่งที่ทำให้มาร่วมโครงการนี้เพราะเป็นคนชอบดูภาพยนตร์ และชอบเรียนภาษาอังกฤษเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงทำให้อยากเข้ามาร่วมกิจกรรม ยอมรับว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่น่าสนใจ เพราะนอกจากความบันเทิงที่จะได้แล้ว ยังทำให้มีโอกาสได้เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษใหม่ๆเพิ่มขึ้น ทั้งแกรมม่า และไวยากรณ์ จากครูที่มาคอยแนะนำ

ถิรตาเท้าความว่า ตอนที่มาสมัครร่วมโครงการนั้นไม่คิดว่าจะเป็นผู้ที่ได้ทุนเดินทางไปประเทศออสเตรเสีย แต่ที่มาสมัครเพียงแค่ต้องการดูหนัง และมาฝึกฝนทักษะด้านภาษาเท่านั้น แต่ผลปรากฏว่าคะแนนทดสอบออกมาดีและดีพอที่จะได้ไปออสเตรเลีย

'สิ่งที่ได้จากการเข้าร่วมโครงการครั้งนั้น อย่างแรกแน่นอนต้องได้ศัพท์คำใหม่ๆที่เรายังไม่รู้ ต่อมาคือเราได้เรียนรู้วิธีการพูด สำเนียงของเจ้าของภาษา ที่สำคัญยังได้ไปเที่ยวประเทศออสเตรเลีย บุยได้มีโอกาสคุยกับเจ้าของภาษาแท้ๆตลอดเวลาในช่วง 2 สัปดาห์ที่อยู่ที่นั่น โดยโครงการให้บุยอาศัยอยู่กับ Host Family ซึ่งเขาใจดีมากๆ เขาแนะนำอะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับประเทศของเขา ทั้งวัฒนธรรม ประเพณี อาจจะมีปัญหาบ้างเล็กๆน้อยๆตรงสำเนียงของคนออสเตรเลียไม่เหมือนกับคนอังกฤษ แต่สุดท้ายก็ไปได้ด้วยดี' ถิรตากล่าว

การเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ผลสำเร็จนั้น ถิรตาได้บอกน้องๆว่า เราจำเป็นต้องเก็บประสบการณ์ไปเรื่อยๆ เอาทุกรูปแบบที่สามารถช่วยพัฒนาภาษาของเราได้ ไม่ว่าจะเป็นการดูภาพยนตร์หรือฟังเพลง แต่สิ่งสำคัญในการเรียนภาษาอังกฤษที่ลืมไม่ได้คือเรื่องของคำศัพท์ แต่จะได้ศัพท์อย่างเดียวก็ไม่ได้เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นได้แต่ทฤษฏี จึงจำเป็นต้องฝึกทั้งฟังทั้งพูดให้มากๆ เพราะถ้าได้แต่หลักการอย่างเดียวพอถึงเวลาพูดเราจะพูดไม่ได้ อีกอย่างสำหรับเทคนิคการเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่ได้จากการดูภาพยนตร์นั้น ถิรตาอธิบายว่าเธอจะพยายามไม่อ่านซับไตเติล แต่จะพยายามฟัง ถ้าหากไม่รู้จริงๆจึงค่อยอ่าน ข้อดีอีกอย่างคือเราจะได้ในเรื่องของสำเนียงของเขา

ผู้ที่สนใจมาสมัครได้ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์ (Box Office) ของโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ทั้ง4 แบรนด์คือ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์, อีจีวี, พารากอน ซีนีเพล็กซ์ และเอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ ทุกสาขา, สำนักงาน EF Education First เอ็มโพเรี่ยมทาวเวอร์ หรือดาวน์โหลดใบสมัครได้จากเว็บไซต์ www.majorcineplex.com/www.ef.com และ www.dutchmill.co.th ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม-12 ตุลาคม 2551

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์โลกวันนี้
วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2551