บริษัทฯ ลงทุนในธุรกิจจัดจำหน่ายภาพยนตร์โดยการถือหุ้น ร้อยละ 92.46 ใน บมจ. เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นตรงในบริษัท เอ็มพิคเจอร์ส จำกัด ผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์เข้าโรงภาพยนตร์เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ณ สิ้นปี 2563 บริษัทมีบริษัทย่อยภายใต้ธุรกิจสื่อภาพยนตร์ ดังนี้
บจ.เอ็ม พิคเจอร์ส
92.46%
จัดหาและซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ต่างประเทศและภาพยนตร์ไทย ทั้งจากเอเชีย ยุโรป และอเมริกา
บจ.เอ็ม เทอร์ตี้ไนน์
92.46%
ผลิตภาพยนตร์ไทย
บจ.เอ็มวีดี
92.46%
จัดหาและซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ต่างประเทศและภาพยนตร์ไทย จัดทำในรูปแบบวีซีดี ดีวีดี และบลูเรย์
บจ.เมเจอร์ กันตนาบรอดแคสติ้ง
41.61%
เผยแพร่ภาพผ่านสัญญาณดาวเทียมและจำหน่ายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์
บจ.เอ็มวีพี เอ็ม พิคเจอร์ส ฟิล์ม ดิสทริบิวชั่น (ลาว)
36.98%
จัดจำหน่ายภาพยนตร์ในประเทศลาว
บจ.ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม
32.07%
ผลิตภาพยนตร์ไทย
บจ.ไท เมเจอร์
60.00%
ผลิตภาพยนตร์
ในปี 2563 บริษัทยังคงตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้เติบโตขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนทั้งในและต่างประเทศ บริษัทจึงผลักดันให้ทีมผู้สร้างต่างๆ ทั้งจากทีมผู้สร้างละคร เกมส์โชว์ และผู้ที่สนใจในภาพยนตร์ไทย ได้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างภาพยนตร์เพื่อป้อนสู่ตลาดโรงภาพยนตร์ให้เกิดความต่อเนื่อง ณ สิ้นปี 2563 จึงมีภาพยนตร์ไทยที่เข้าฉายแล้ว และที่อยู่ระหว่างผลิต ซึ่งเกิดจากการร่วมทุนกับพันธมิตรมากกมาย ได้แก่ กิจการร่วมค้าภาพยนตร์ ไบค์แมน ภาค 1 และ 2 ,แสงกระสือ ,ขุนแผนฟ้าฟื้น ,Classic Again ,ดิวไปด้วยกันนะ ,รัก 2 ปียินดีคืนเงิน ,คืนยุติธรรม ,ฮีกเถิดเทิง ,อีเรียมซิ่ง ,โปรเม อัจฉริยะ/ต้อง/สร้าง ,Happy New U ,แดงพระโขนงและ CRACKED
ปัจจุบันภาพยนตร์ไทยได้รับความนิยมจากหลายประเทศมากขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ทีมผู้สร้างภาพยนตร์ไทยและผู้ร่วมลงทุนมีโอกาสรับรู้รายได้เพิ่มมากขึ้น