จากการที่บริษัทฯ ขยายสาขาเพิ่มขึ้น รวมถึงมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ มานำเสนอแก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง จึงสามารถดึงดูดให้ลูกค้าทั่วประเทศเข้ามาใช้บริการในแต่ละปีประมาณเกือบ 40 ล้านคน บริษัทย่อยภายใต้ชื่อ “บริษัท เมเจอร์ซีนีแอด จำกัด” จึงจัดตั้งขึ้นเพื่อให้บริการสื่อโฆษณาทั้งในโรงภาพยนตร์และพื้นที่ทั้งหมดภายใน Cineplex ทั่วประเทศอย่างครบวงจร

ภายใต้การดำเนินงานของ “บริษัท เมเจอร์ ซีนีแอด จำกัด” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของกลุ่มเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ โดยมีขอบเขตการประกอบธุรกิจหลัก เพื่อให้บริการสื่อโฆษณาในสาขาของโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ อีจีวี ซีนีม่า เมกา ซีนีเพล็กซ์ และอื่นๆ ทั้ง 12 แบรนด์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และรวมไปถึงในส่วนของเมเจอร์โบว์ล เมเจอร์คาราโอเกะ บลูโอ ริทึมแอนด์โบว์ล รวมถึงการให้บริการทำโปรโมชั่นภาพยนตร์และให้บริการทางการตลาด โดยมีรายละเอียดดังนี้

การโฆษณาในโรงภาพยนตร์ ปัจจุบันเรียกว่า Cinemedia จัดเป็นช่องทางโฆษณาอีกช่องทางหนึ่งที่มีประสิทธิภาพ และเป็นที่นิยมของบริษัทโฆษณาและบริษัทเจ้าของสินค้า เนื่องจากสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่กำหนดได้มากกว่าการโฆษณาผ่านสื่อประเภทอื่นอย่างสื่อโทรทัศน์ สื่อวิทยุ หรือแผ่นป้ายโฆษณา รวมถึงนวัตกรรมโฆษณาใหม่ล่าสุดที่เรียกว่า 4D Adsที่ลูกค้าจะได้รับอรรถรสมากขึ้น สื่อต่างๆ ของบริษัทฯ เป็นการโฆษณาถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในแนวกว้าง (Mass Advertising) โดย บริษัทฯ ได้มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การขายและช่องทางการขายให้หลากหลายและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น รวมทั้งจำนวนโรงภาพยนตร์ที่เพิ่มขึ้น โดยมีจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการในศูนย์การค้า โรงภาพยนตร์ และโบว์ลิ่ง ของบริษัทฯ ในสภาวะปกติที่มีกว่า 40 ล้านคน จากการขยายสาขาและจำนวนโรงภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะต่างจังหวัด ซึ่งเป็นที่สนใจของแบรนด์ที่มีสินค้าระดับแมสที่จำหน่ายแก่กลุ่มลูกค้าทั่วประเทศเพราะถือเป็นโอกาสในการสื่อสารถึงกลุ่มลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น และจากความไม่หยุดนิ่งที่จะหานวัตกรรมใหม่ๆ มานำเสนอแก่ลูกค้าของโรงภาพยนตร์ ทำให้ บริษัทฯ สามารถตอบโจทย์ด้านการตลาดให้กับทุก Target Groupไม่ว่าจะเป็น Tier A, B หรือ C หรืออาจแยกย่อยไปเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือครอบครัวได้เช่นกัน เช่น โรงภาพยนตร์ Kids Cinemaเป็นการสร้างโอกาสสร้างรายได้จากการขยายฐานไปยังแบรนด์พาร์ตเนอร์ที่เป็นแบรนด์สินค้าสำหรับครอบครัว เป็นต้น แม้ว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (2563-2564) จำนวนผู้เข้าชมจะลดลง เนื่องจากวิกฤตโรคระบาด แต่เมื่อสถานการณ์สามารถควบคุมได้ สื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์จะยังมีศักยภาพในการเติบโตและการแข่งขันสูง เพราะเป็นสื่อที่นิยมและมียอดเงินโฆษณาสูงในอุตสาหกรรมโฆษณาในโรงภาพยนตร์ที่บริษัทโฆษณาและบริษัทเจ้าของสินค้าสนใจเลือกและจัดสรรงบประมาณเพื่อลงโฆษณา นอกเหนือจากการลงโฆษณาในสื่อโทรทัศน์ วิทยุและออนไลน์เนื่องจากจุดเด่นของการลงโฆษณาในโรงภาพยนตร์สามารถคาดการณ์จำนวนของผู้รับสื่อโฆษณาหรือผู้บริโภคได้ค่อนข้างชัดเจน อีกทั้งสามารถสื่อได้ตรงกับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการ