MAJORตุนหนังฟอร์มยักษ์เพียบ จ่อคิวฉายฟันรายได้ครึ่งปีหลัง

รายได้ครึ่งปีหลัง MAJOR มีสิทธิ์พุ่งกระฉูด หลังมีคิวหนังฟอร์มใหญ่จ่อเข้าฉายดูดเงินเพียบด้าน MAJOR ลั่นเตรียมอัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายต่อเนื่องหวังทำรายได้ทั้งปี 51 โตทะลุ 6 พันล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีนายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน)หรือ MAJOR ระบุว่า ผลการดำเนินงานปี 51 ยังคงเป้าโตขึ้น 15-20% จากปีก่อนที่อยู่ระดับ 5,805 ล้านบาท หลังจากเตรียมเพิ่มโปรโมชั่น กระตุ้นยอดขายตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/51 เป็นต้นไปส่วนไตรมาส 2/51 แนวโน้มเติบโตขึ้นกว่าไตรมาส 1 ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นช่วงซัมเมอร์ที่มียอดผู้ชมภาพยนตร์สูงมาก

โดยบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบีเคเฮียน จำกัด ประเมินว่า รายได้รวมช่วงครึ่งปีหลังจะมีโอกาสเติบโตได้กว่าช่วง 6 เดือนแรกของปี 51 หลังจาก MAJOR ยังมีภาพยนตร์ที่สามารถทำรายได้สูงเตรียมเข้าฉาย 6-7 เรื่องแต่จะมีรายได้ทั้งปีประมาณ 5,405ล้านบาท ปรับลดลงจากปีก่อน 5,805 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 920 ล้านบาท เนื่องจากปี 50 มีการบันทึกกำไรพิเศษจากการจำหน่ายสินทรัพย์ ให้แก่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์สไตล์ จำนวน 694 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้นายวิชา กล่าวว่า MAJOR จะเตรียมเพิ่มโปรโมชั่นเดือนละ 1 ครั้ง จากเดิม 2 เดือนต่อ 1 ครั้งเพื่อกระตุ้นยอดขายและรายได้ เพื่อให้เป็นตามเป้าหมายมีรายได้สูงกว่าปี 15-20% ที่อยู่ระดับ 5,805 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการไตรมาส 2/51 มีรายได้รวมสูงกว่าไตรมาสแรก โดยเฉพาะรายได้จากการฉายภาพยนตร์ เนื่องจากเป็นช่วงซัมเมอร์และปิดเทอมที่มีผู้บริโภคมารับชมเป็นจำนวนมาก และรับรู้รายได้อีกส่วนจากโครงการเมเจอร์ อะเวนิว รัชโยธิน

อีกทั้งยังเตรียมเงินลงทุนในประเทศ 1 พันล้านบาทเพื่อสร้างโรงหนัง 35 โรงและโบว์ลิ่ง 40 เลน ส่วนการลงทุนที่อินเดียจะเริ่มจากธุรกิจโบว์ลิ่งก่อน และอนาคตอาจมีการพิจารณาลงทุนเพิ่มเติม หลังจากคาดการณ์ว่าแนวโน้มธุรกิจบันเทิงในอินเดียมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก และมองหาประเทศอื่นๆ เพิ่มเติมด้วยเพื่อกระจายความเสี่ยง

สำหรับผลประกอบการไตรมาส2 จะมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกที่มีรายได้รวม 1,336 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 301 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงที่มีภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่หลายเรื่องเข้าฉาย อาทิ IRON MAN ,SPEED RACER ,NARNIA,INDIANA JONESเป็นต้น แนะนำ'ซื้อลงทุน'ราคาเป้า 19.50 บาทเนื่องจาก MAJOR เป็นบริษัทที่ครองส่วนแบ่งสูงถึง 80% อีกทั้งยังมีนโยบายขยายสาขาไปตามศูนย์การค้าหลายแห่งอย่างต่อเนื่อง

ด้านบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวงจำกัดกล่าวว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังของMAJORจะกลับมาเติบโตมากขึ้นกว่าครึ่งปีแรกเพราะมีภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดฟอร์มยักษ์กระจายเข้าฉายทั้งไตรมาส 3และไตรมาส 4 จำนวน 6-7 เรื่องอาทิ BATMAN JAMEBOND องค์บาก MUMMY HARRY POTTER เป็นต้น และหากเทียบช่วงเวลาดังกล่าวแบบปีต่อปีถือว่าฟื้นตัวอย่างชัดเจน เนื่องจากครึ่งหลังปี 50 ที่ผ่านมาไม่มีภาพยนตร์ที่สามารถทำรายได้เลยสูงมากนัก โดยประเมินกำไรสุทธิทั้งปีไว้ 918 ล้านบาท

อย่างไรก็ดีMAJORยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามคือปัญหาความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ลดลงและจำนวนภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดฟอร์มใหญ่ที่สามารถทำเงินได้ระดับสูงมีจำนวนลดลง เพราะโดยปกติแล้วช่วงพ.ค. นับเป็นช่วงที่รายได้ขายตั๋วจะสูงสุดไตรมาส 2 เนื่องจากมีภาพยนตร์เข้าฉายเป็นจำนวนมาก แต่ปรากฏว่าหนังอย่าง INDIANA JONES กลับทำรายได้เพียง 55 ล้านบาทและ IRON MAN 76 ล้านบาทเท่านั้น

โดยแนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 25.25 บาท เพราะแม้มีปัจจัยเสี่ยงจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น แต่ยังเชื่อว่าMAJOR จะสามารถทำกำไรสุทธิปี 51 ไว้เท่าคาดการณ์ไว้ หลังจากยังมีภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดและภาพยนตร์ไทยเรื่องใหญ่ที่รอเข้าฉายจำนวน 6-7 เรื่องช่วงครึ่งหลังปี 51 ช่วยกระตุ้นให้ยอดขายบัตรชมภาพยนตร์ออกมาได้สูงกว่า 6 เดือนแรก

ที่มา : หนังสือพิมพ์ ข่าวหุ้น
วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2551