ปี 2565 เป็นอีกช่วงเวลาที่ท้าทายหลังจากสถานการณ์การแพร่ ระบาดโรค Covid-19 ประกอบกับวิกฤตจากความขัดแย้งรัสเซีย- ยูเครน ทำให้ต้นทุนสินค้าพุ่งสูงสุดในรอบกว่า 10 ปี อัตราดอกเบี้ย และเงินเฟ้อสูงประกอบกับนโยบายโควิต 19 เป็นศูนย์ของจีน ทำให้ เศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลก ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและทุกธุรกิจ อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน บริษัทฯ เร่งปรับตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อหา แนวทางในการบรรเทาผลกระทบที่มีต่อธุรกิจ โดยการมุ่งรักษา เสถียรภาพการเงินให้มั่นคง คุมเข้มสภาพคล่องอย่างเคร่งครัด ลด ต้นทุน เน้นการลงทุนอย่างรอบคอบในธุรกิจที่ส่งเสริมให้บริษัท สามารถประกอบกิจการได้อย่างมีศักยภาพสูงและยั่งยืน

ตลอดความท้าทายที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ยึดหลักการให้ความสำคัญต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง ตั้งแต่พนักงาน ลูกค้า คู่ค้า เจ้าหนี้ ผู้ถือหุ้น ไปจนถึงชุมชนและประเทศชาติ โดยได้ริเริ่มสิ่งใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ทุกฝ่ายเดินหน้าไปด้วยกันอย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็น การยกระดับมาตรฐานโรงภาพยนตร์ พัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้รับบริการ

ในปี 2565 บริษัทได้เข้าไปลงทุนในพันธมิตรทางธุรกิจ 2 บริษัทใหญ่ โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการต่อยอดเสริมความแข็งแกร่ง ในการขยายช่องทางจัดจำหน่าย “ป๊อบคอร์น” สู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ อีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญ คือการขยายธุรกิจ ภาพยนตร์ ซึ่งบริษัทฯ มั่นใจว่า “อุตสาหกรรมหนัง” ของประเทศไทยจะสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนด้วย Local Content หรือหนังไทย มากขึ้น เพื่อครองสัดส่วนให้ได้ร้อยละ 50 ของรายได้ภาพยนตร์

บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้อย่างมืออาชีพ ทั้งการรักษาวินัยทางการเงินอย่างเคร่งครัด บริหาร โครงสร้างเงินทุนให้แข็งแกร่ง รวมถึงการวิเคราะห์และจัดเตรียมแผนรองรับธุรกิจภายใต้สถานการณ์ที่หลากหลาย เพื่อให้สามารถเดินหน้า ลงทุนเพื่อพัฒนาสินค้าและบริการได้อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจที่น่าสนใจ เพื่อรักษาขีดความสามารถ ในการแข่งขันอัตราการเติบโตของรายได้และผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว โดยในปี 2565 บริษัทฯ สามารถเดินหน้าลงทุนเปิดโรงภาพยนตร์ ตามแผนที่วางไว้ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมหลังเปิดให้บริการ

การจัดการองค์กรด้านบุคลากรและสังคม บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นในการดูแลพนักงานควบคู่ไปกับการดูแลสังคม โดยด้านบุคลากร ได้ดำเนินมาตรการ Work From Anywhere ควบคู่กับปฏิบัติตามมาตรการการควบคุมการแพร่กระจายโรคอย่างเคร่งครัด การส่งเสริม พนักงานให้เกิดการเรียนรู้ผ่านช่องทาง Online เพื่อเป็นการพัฒนาทักษะต่างๆ และให้บุคลากรเกิดการเรียนรู้สิ่งใหม่อย่างต่อเนื่อง การ สร้างและผลักดันวัฒนธรรมองค์กรใหม่ (Rule of Successผลักดันสร้างความเท่าเทียมและขจัดความเลือกปฏิบัติ

ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม บริษัทคงยังเดินหน้าในการดูแลสังคมผ่านมูลนิธิ เมเจอร์ แคร์ โดยมุ่งเน้นการมอบโอกาสทางการ ศึกษา เพื่อช่วยเปิดโลกทัศน์ในการเรียนรู้ เสริมสร้างประสบการณ์นอกห้องเรียน ผ่านโครงการห้องหนัง ที่ดำเนินการไปแล้วกว่า 58 โรงเรียน ครอบคลุม 58 จังหวัด นอกจากนี้ ในด้านสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ ปรับตัวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ผ่านโครงการ Green Cinema ไม่ว่าจะ เป็นโครงการแยกขยะในโรงภาพยนตร์ การลดการใช้พลาสติก Solar Rooftop ในสาขา Stand Alone และการนำขวดพลาสติกมาแปร รูปเป็นหน

แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่อง แต่บริษัทยังคงยืนหยัดในการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยในปี 2565 บริษัทยังคง ได้รับคัดเลือกเข้าเป็น หุ้นยั่งยืน (Thailand Sustainability Investment หรือ THSIต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 จากตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทย และ ได้รับคะแนนด้านการกำกับดูแลกิจการในระดับ “ดีเยี่ยม" (5 ดาว) จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2

สุดท้ายนี้ ในนามของคณะกรรมการบริษัท คณะผู้บริหาร ผมใคร่ขอขอบคุณผู้มีส่วนได้เสียทุกท่านสำหรับการสนับสนุนตลอดช่วงเวลาที่ท้าทายอย่างมากนี้ ผมขอขอบคุณพนักงานทุกคนสำหรับความทุ่มเทและความอดทน รวมถึงความร่วมมือร่วมใจกันมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนและสร้างผลการดำเนินงานที่ดีในทุกส่วนขององค์กรอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีที่ผ่านมา บริษัทฯ จะยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยหลักบรรษัทภิบาลและสำนึกในความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย และหวังว่าทุกท่านจะให้ความเชื่อมั่นและการสนับสนุนกับบริษัทฯ เพื่อเติบโตไปพร้อมกันสู่อนาคตที่ยั่งยืน

นายสมใจนึก เองตระกูล

ประธานกรรมการ

นายวิชา พูลวรลักษณ์

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร